กรงน้ำผึ้ง

กรงน้ำผึ้ง

เรื่องย่อ 

เพียงครั้งแรกที่ได้พบกับเธอ ชลัมพลก็รู้ในทันทีว่าลมหายใจของเขาไม่ได้มีไว้เพื่อตัวเองเพียงคนเดียวอีก แต่เขาจะทำอย่างไรเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่ขโมยหัวใจเขาไป กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะ ‘คุณย่า’ ของเขา! ‘เตียวเหล็ง’ นักธุรกิจคนดังแห่งเมืองภูเก็ตถูกฆาตกรรมอำพราง ปมปริศนาอันแสนซับซ้อนซ่อนเงื่อนทำให้ ‘ชลัมพล’ หลานรักนอกสายเลือด ต้องปวดหัวกับการค้นหาความจริงแต่ยิ่งสืบเขาก็ยิ่งหลงทาง แถมยังมีความรักระหว่างเขากับ ‘สายน้ำผึ้ง’ คุณย่ายังสาวมาให้หัวใจปั่นป่วนเสียอีก นี่คือโศกนาฏกรรมความรักโลภโกรธหลงแห่งตระกูลเตียว …ที่จะจดจารไว้ในหัวใจไปอีกนาน

ตระกูลเตียว เป็นตระกูลผู้ทรงอิทธิพลคนดังของภูเก็ตที่เคยร่ำรวยมาจากธุรกิจทำเหมืองดีบุกในอดีต แม้ตอนหลังธุรกิจเหมืองแร่จะประสบปัญหาราคาแร่ตกต่ำ นายเหมืองเตียวหรือ เตียวเหล็ง ก็ไม่เคยยอมแพ้และหันมาทำธุรกิจรังนก โรงแรม รีสอร์ต รวมถึงตึกแถวย่านเมืองเก่าจนร่ำรวย เตียวเหล็งมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งที่ก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่เพื่อนของเขากับลูกชายอายุสั้น ทั้งที่ตอนนั้นหลานชายของเพื่อนยังเป็นทารก เตียวเหล็งจึงรับมาอุปการะ และรักเหมือนเป็นหลานชายของตนแท้ๆ โดยตั้งชื่อให้ว่า ชลัมพล  

เตียวเหล็งมีน้องชายคนหนึ่งชื่อ เตียวซก ส่วนเตียวซกมีลูกชายคือ ศักดิ์ณรงค์ แต่หลายครั้งที่ศักดิ์ณรงค์รู้สึกว่าเตียวเหล็งลำเอียง รักชลัมพลมากกว่า ทั้งที่ตนเป็นหลานแท้ๆ ทำให้เตียวซกมีปากเสียงกับเตียวเหล็งบ่อยครั้ง เรื่องใหญ่ที่สุดก็ดูเหมือนจะเป็นการให้ชลัมพลเข้าไปช่วยดูแลธุรกิจรังนก ที่ตนเองนั้นหมายปองนักหนา 

(เปิดเรื่อง) เตียวเหล็งถูกฆาตกรรมโดยทำให้เป็นอุบัติเหตุ มีคนเห็น อากุ่ย คนงานในบ้านเป็นคนลอบวางระเบิดรถของเตียวเหล็ง ชัยยศ คนสนิทของเตียวเหล็งที่ช่วยเลี้ยงชลัมพลมาตั้งแต่เด็กๆ จึงสันนิษฐานว่าจะเป็นฝีมือของเตียวซก ที่หวังจะก้าวขึ้นครอบครองทุกอย่างของเตียวเหล็ง 

เมื่อรู้ข่าวว่าอากุ่ยหลบหนีไปน่าน ชลัมพลจึงไปตามล่าตัวเพื่อให้ยอมสารภาพว่าใครคือผู้บงการ แต่ระหว่างทางที่อากุ่ยขับรถหนีขึ้นภูเขาได้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถที่สวนมาเข้า อากุ่ยจึงตัดสินใจลงจากรถมายิงชลัมพลเพื่อเอาตัวรอด 

มัคคุเทศก์สาวคนหนึ่งพานักท่องเที่ยวผ่านไปในบริเวณใกล้เคียง เธอบังเอิญได้ยินเสียงปืนและเกือบจะโดนลูกหลงของอากุ่ยเข้า ชลัมพลช่วยเธอเอาไว้ได้ โดยมีเหตุจำเป็นบางอย่างที่ทำให้เขาต้อง ‘จูบ’ เธอเข้า หญิงสาวจึงตกใจจนหมดสติไป เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ช่วยของเธอบอกว่าเห็นชลัมพลตามล่าอากุ่ยเข้าป่าทางด้านข้างทางไปแล้ว มัคคุเทศก์สาวจึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่กว่าตำรวจจะมาถึงก็กลับไม่พบเบาะแสของพวกคนที่ยิงกัน

ชลัมพลกลับมารายงานชัยยศว่าอากุ่ยพลัดตกภูเขาไป เขาคิดว่าอากุ่ยน่าจะไม่รอด ชัยยศจึงรับปากจะให้คนของตนจับตาดูเตียวซกอยู่เงียบๆ เพื่อหาหลักฐานมาเอาผิดโดยเร็วที่สุด

คืนนั้น ชลัมพลบังเอิญเห็นกระดุมเม็ดหนึ่งหล่นลงมาจากเสื้อของเขา ชายหนุ่มจำได้ว่าเป็นกระดุมของมัคคุเทศก์สาวที่เจอกันบนภูเขา และเดาว่าคงหลุดขาดมาตอนหลบกระสุนกันชุลมุน พอนึกถึงวีรกรรมจุ้นๆ และจูบของเธอแล้ว เขาก็รู้สึกว่าเธอน่ารักดี แต่เมื่อยังมีภารกิจสำคัญต้องจัดการ ชายหนุ่มจึงตัดใจไม่คิดเรื่องส่วนตัวอีก

วันเปิดพินัยกรรมตระกูลเตียวมาถึง ญาติๆ ทุกคนมารอกันครบ แต่ทนายกลับบอกว่ายังขาดอีกสองคน คือ สายน้ำผึ้ง กับ น้ำเหนือ ซึ่งเป็นภรรยาลับๆ กับลูกชายวัย 5 ขวบของเตียวเหล็งที่มีสิทธิ์ในการฟังพินัยกรรมด้วย

เตียวซกฮึดฮัดไม่พอใจ เขาไม่เคยรู้ว่าเตียวเหล็งมีภรรยากับลูกนอกสมรสอยู่นอกบ้านมาก่อน แต่ก็ใช่จะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากเตียวเหล็งเป็นคนมากรักหลายใจ ยิ่งภรรยาหลวงมีลูกไม่ได้ เตียวเหล็งจึงมีข้ออ้างในการพาภรรยาคนที่ 2, 3, 4 เข้ามาในบ้านเสมอ ทว่าทุกคนไม่ทันมีทายาทก็มีเหตุให้ต้องตายไปเสียก่อน ใครๆ ก็ว่าเป็นฝีมือ  ‘คุณนายใหญ่’ ที่เพิ่งจะตายไปก่อนเตียวเหล็งด้วยโรคหัวใจวายแค่ไม่กี่วัน

ดังนั้น การที่เตียวเหล็งไม่พาภรรยาคนที่ 5 กับลูกชายเข้าบ้าน แต่เลือกที่จะปิดบังทุกคนมานานก็ทำให้สันนิษฐานได้ว่าเตียวเหล็งเกรง ‘คุณนายน้อย’ กับลูกจะมีจุดจบเหมือนเมียคนอื่นๆ

แต่ระหว่างรอสายน้ำผึ้งกับลูกชายมาร่วมฟังพินัยกรรมนั้น อยู่ๆ ทนายก็ได้รับแจ้งว่ารถทัวร์ที่สายน้ำผึ้งเดินทางมาจากน่านประสบอุบัติเหตุตั้งแต่เมื่อคืน ทนายขอตัวกลับไปดูเธอ ทำให้เตียวซกโมโห บอกให้เปิดพินัยกรรมก่อน แต่ทนายก็ยืนกรานว่าถ้าคนไม่ครบก็ยังเปิดไม่ได้ และกลับออกไปโดยที่ชัยยศขอตามไปด้วย เพราะเขาเป็นคนเดียวที่เตียวเหล็งอนุญาติให้รู้เรื่องคุณนายน้อย และมีหน้าที่ส่งค่าเลี้ยงดูให้เธอมาโดยตลอด

ชลัมพลถูกวานให้ช่วยดูแลงานต่างๆ แทนชัยยศที่ภูเก็ต ก่อนจะได้รับข่าวว่าน้ำเหนืออาการแย่จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ตอนนี้เป็นเจ้าชายนิทรา ส่วนสายน้ำผึ้งยังไม่รู้สติ ชลัมพลจึงหาเวลามาเยี่ยมทั้งสองที่พักอยู่โรงพยาบาลในจังหวัดชุมพร (จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุ) แต่เมื่อมาถึงกลับได้รู้ว่าสายน้ำผึ้งความจำเสื่อม แถมยังมีคนลอบเข้ามาฆ่าเธอถึงโรงพยาบาลเมื่อคืน หญิงสาวตกใจกลัวมาก ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เลยแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ชลัมพลจึงตัดสินใจลองเข้าไปดูในห้อง แล้วก็ต้องตะลึงที่เห็นว่าสายน้ำผึ้งคือมัคคุเทศก์สาวคนนั้น

การที่เขาเคยช่วยเธอจากลูกปืนคราวก่อนทำให้ส่วนลึกของสายน้ำผึ้งไม่กลัวเขาเหมือนคนอื่นๆ ชัยยศจึงตัดสินใจว่าควรให้ชลัมพลอยู่ดูแลเธอในช่วงนี้

อาการสายน้ำผึ้งเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ชลัมพลตัดสินใจพาสายน้ำผึ้งไปเยี่ยมลูกชายที่ยังเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ในห้องพัก เขาคิดว่าสายใยแม่ลูกผูกพันอาจทำให้ความจำของเธอกลับคืนมาได้บ้าง แต่ยังไม่ทันแนะนำว่าน้ำเหนือเป็นลูกชาย สายน้ำผึ้งก็ปวดหัวอย่างรุนแรง เธอร้องไห้จนสลบ เมื่อตื่นมาอีกครั้งก็ยังจำไม่ได้ว่าเพิ่งไปเยี่ยมน้ำเหนือมาหมาดๆ หมอจึงสรุปว่าอาจต้องรอให้เธอได้ปรับตัวสักระยะ และไม่ควรกระตุ้นให้นึกอะไรในตอนนี้

บาดแผลภายนอกของสายน้ำผึ้งไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ชลัมพลจึงตัดสินใจพาเธอกลับบ้านที่น่าน เพราะคิดว่าเธอยังไม่ควรเผชิญหน้ากับคนในตระกูล โดยเฉพาะเตียวซก… รายนั้นตั้งแง่เกลียดเธอตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า เขาพยายามหากิจกรรมที่เธอชอบทำมาให้ทำอย่างใจเย็นตามคำแนะนำของหมอ เพื่อจะช่วยเธอฟื้นความทรงจำช้าๆ และคอยดูแลเธออย่างใกล้ชิด

ชลัมพลพาสายน้ำผึ้งไปพบ ปรินดา จากคำแนะนำของชัยยศ โดยบอกว่าปรินดาคือคนที่รู้จักสายน้ำผึ้งดี แต่เมื่อพาไปพบกลับไม่ได้ข้อมูลอะไรมาก เธอรู้เพียงแค่สายน้ำผึ้งอยู่กับลูกชาย แต่ชลัมพลขอให้ปรินดาเก็บเรื่องลูกชายกับสามีของสายน้ำผึ้งไว้ก่อนอย่าเพิ่งบอก เพราะกลัวว่าเธอจะเสียใจและอาการกำเริบอีก แต่เพราะความปากไม่มีหูรูดของปรินดาก็เกือบหลุดพูดออกไปหลายครั้ง

สำหรับชลัมพลแล้ว สายน้ำผึ้งเป็นเหมือนเจ้านายอีกคนของเขา แต่สำหรับสายน้ำผึ้งนั้น ชลัมพลเป็นเหมือนโลกทั้งใบของเธอ

ชายหนุ่มไม่ได้บอกเรื่องที่เธอเป็นภรรยาลับๆ ของเตียวเหล็ง เพราะเกรงว่าเธอจะรับไม่ได้ที่ต้องรู้ว่าตอนนี้สามีก็ตาย ส่วนลูกชายก็ยังเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ ทำให้สายน้ำผึ้งคิดไปเองว่า ‘ครอบครัวของเธอ’ ที่ชลัมพลพูดถึงบ่อยๆ ว่าอยู่ภูเก็ตนั้น คือครอบครัวที่หมายถึงพ่อแม่ และเขาเป็นคนที่พ่อแม่เธอส่งมาดูแล

สายน้ำผึ้งเริ่มตกหลุมรักเขา ในขณะที่ชายหนุ่มอ่านท่าทีได้และจำเป็นต้องหักห้ามใจเพราะเธอคือภรรยาของผู้มีพระคุณ เขาคิดว่าการอยู่ด้วยกันกับเธอสองต่อสองนั้นเริ่มที่จะหนักหนาเกินไป ทำให้เขาติดต่อหาชัยยศ และขอให้จ้างแม่บ้านสักคนมาอยู่เป็นเพื่อน

ชัยยศรับปาก ก่อนจะได้ยินเสียงคนแอบฟังที่ประตูเลยตัดบทวางสาย พอเปิดไปก็เห็นว่าเป็น นารี เด็กรับใช้ในบ้านที่ไม่มีพิษมีภัยอะไร เนื่องจากเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เขาก็ยังไม่ชอบใจที่นารีมาทำลับๆ ล่อๆ นารีจึงอธิบายว่า เตียวซกให้เธอมาตามไปพบ

เตียวซกถามเรื่องถึงกำหนดกลับของสายน้ำผึ้ง เพราะอยากจะเปิดพินัยกรรมเสียที แต่เมื่อชัยยศอธิบายว่าเธอยังอยู่ในช่วงพักรักษาตัว เตียวซกจึงโมโห ต่อว่าสายน้ำผึ้งวางอำนาจเพราะมีลูกชายสืบสกุลให้เตียวเหล็ง ไม่เกรงใจคนอื่นๆ เขาเริ่มไม่พอใจสายน้ำผึ้งมากขึ้น

ด้านชลัมพลเมื่ออยู่ที่บ้านสายน้ำผึ้งหลายวันเข้า เขาก็เริ่มเอะใจว่าทำไมแถวๆ นี้ไม่มีเพื่อนบ้านเลย

เช้าวันหนึ่งเขาทำทีชวนสายน้ำผึ้งไปขับรถเที่ยวรอบๆ เพื่อสำรวจดูว่ามีบ้านหลังอื่นอยู่บ้างหรือเปล่า แต่กว่าจะมาเจอหมู่บ้านจริงๆ ก็กินระยะทางไปไกล ชายหนุ่มยิ่งแปลกใจว่าทำไมเตียวเหล็งถึงปล่อยให้เมียและลูกน้อยพักอยู่ในที่เปลี่ยว ห่างไกลผู้คนเช่นนี้ แต่ก็ได้แค่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ

เขาถือโอกาสพาเธอเดินเที่ยวในตลาดชาวเขา ความเพลิดเพลินทำให้สายน้ำผึ้งพลัดหลงกับชลัมพล เธอกลัวมากเพราะไม่รู้จักใคร ส่วนชลัมพลเองก็เป็นห่วงหญิงสาวไม่น้อยไปกว่ากัน ต่างคนต่างเดินตามหากันอยู่นานกว่าจะพบ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ต่างเริ่มรู้ใจตัวเองว่าอีกฝ่ายเป็น ‘คนสำคัญ’ ขนาดไหน

คืนนั้น สายน้ำผึ้งตัดสินใจมอบสร้อยเส้นหนึ่งซึ่งเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เธอมีติดตัวตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาลให้เขา แต่ชลัมพลจำได้ว่าเป็นสร้อยของเตียวเหล็ง เขาจึงไม่รับ กระทั่งเธอคะยั้นคะยอมากๆ เข้า ในที่สุดเขาจึงตกลงใจว่าจะรับฝากไว้เฉยๆ และเริ่มลำบากใจที่จะอยู่ใกล้ชิดเธอ เพราะแน่ใจแล้วว่าเธอคิดอย่างไรกับเขา

บางที…เขาควรรีบพูดความจริงกับเธอก่อนอะไรๆ มันจะเลยเถิดมากไปกว่านี้ แต่เพียงแค่คิด ยังไม่ทันจะได้บอก สายน้ำผึ้งก็ถูกคนลอบทำร้ายจนเกือบจะตกหน้าผา ชลัมพลช่วยเอาไว้ได้ ทั้งยังปักใจเชื่อว่าต้องเป็นคนที่เตียวซกส่งมาแน่ๆ

ชลัมพลตัดสินใจพาสายน้ำผึ้งกลับภูเก็ต หญิงสาวที่ตกหลุมรักเขาอย่างเต็มหัวใจจึงได้รู้ความจริงว่าญาติที่ชลัมพลพูดถึงบ่อยๆ นั้นแท้จริงคือญาติของสามีเธอ แม้พินัยกรรมจะระบุว่ายกทุกอย่างให้น้ำเหนือ และให้เธอเป็นผู้ดูแลมรดกแทนลูก แต่เธอกลับไม่ดีใจเลย… ทั้งยังละอายใจที่เคยแสดงออกว่ารักเขาตอนอยู่น่านด้วยกัน ทั้งๆ ที่ตัวเองมีสามีอยู่ก่อน สายน้ำผึ้งไม่ยอมพูดกับเขาอีกเพราะโกรธที่เขาไม่บอกเธอแต่แรก ชลัมพลจึงฝากให้นารีดูแลสายน้ำผึ้ง

เช้าวันต่อมา สายน้ำผึ้งได้กินข้าวพร้อมหน้ากับเตียวซกและศักดิ์ณรงค์เป็นครั้งแรก เขาแกล้งแซวเธอด้วยการเรียกว่า ‘คุณป้า’ ทำให้เธอตกใจ เขาเลยลำดับให้ฟังว่าเธอเป็นภรรยาของเตียวเหล็งซึ่งก็คือลุงของเขา เขาก็ควรเรียกเธอว่าป้า แต่เธออายุน้อยกว่าเขาเสียอีก เตียวซกจึงปรามว่าไม่เหมาะ มิเช่นนั้น ชลัมพลที่มีศักดิ์เป็นหลานบุญธรรมของเตียวเหล็ง มิต้องเรียกสายน้ำผึ้งว่า ‘คุณย่า’ หรอกหรือบทสนทนาบนโต๊ะอาหารทำให้สายน้ำผึ้งยิ่งเสียใจ และไม่กล้าสู้หน้าชลัมพลเข้าไปใหญ่

เมื่อนารีรับหน้าที่พาคุณนายน้อยไปเดินชมส่วนต่างๆ ของบ้าน สายน้ำผึ้งก็ได้รู้ว่าสามีเธอนั้นเคยมีภรรยาถึง 4 คนด้วยกัน เธอดูรูปของเขา และจำไม่ได้เลยว่าทำไมก่อนที่เธอจะความจำเสื่อม ถึงตัดสินใจเป็นเมียน้อยของเศรษฐีชราที่แสนจะมากรักหลายใจคนนี้ เธอไม่รู้สึกผูกพันกับเขาเลย จึงขอให้นารีพาไปเยี่ยมน้ำเหนือที่โรงพยาบาล หญิงสาวคิดว่าการเจอลูกอาจทำให้จำทุกอย่างได้บ้าง แต่เมื่อไปถึงกลับจำได้แค่ว่าเธอเคยไปเยี่ยมเด็กคนนี้ตอนอยู่โรงพยาบาลชุมพรเท่านั้น

ขากลับ สายน้ำผึ้งเกือบถูกรถชน แต่ชลัมพลแอบสะกดรอยตามมาดูแลเธออยู่ห่างๆ จึงช่วยเอาไว้ได้ สายน้ำผึ้งยิ่งอึดอัดกับความสัมพันธ์แบบย่าหลาน ส่วนชลัมพลเองก็รู้สึกไม่ต่างจากกันนัก ตอนนี้เลยได้แต่เก็บกระดุมเสื้อของเธอที่บังเอิญได้มาในครั้งแรกพบไว้กับตัว เพราะไม่สามารถจะครอบครองมากกว่านี้ได้

คืนนั้นชลัมพลเครียดจนดื่มหนัก เหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับสายน้ำผึ้งบ่อยๆ ทำให้เขาเผลอคิดด้วยอารมณ์ชั่ววูบว่าอยากพาสายน้ำผึ้งหนีไปเริ่มต้นความทรงจำใหม่ด้วยกัน เพราะอย่างไรเสียเตียวเหล็งเองก็ได้ตายไปแล้ว เขาเผลอจูบเธอเข้า และทำให้เธอตกใจมากเพราะอยู่ๆ ก็รู้สึกคุ้นกับจูบของเขาขึ้นมาอย่างประหลาด แต่      ชลัมพลกลับแปลท่าทีเหล่านั้นเป็นความโกรธ และเขาเองก็เพิ่งได้สติว่ามัน ‘ไม่ถูกต้อง’

ชายหนุ่มขอโทษ ก่อนจะกลับออกไปจากห้องของเธอ เขาหยิบสร้อยของเตียวเหล็งที่เธอเคยฝากไว้คราวก่อนมาเพื่อเตือนตัวเองว่าเธอเป็นภรรยาของปู่ ตอนนั้นเองที่เขาบังเอิญพบว่ามันไม่ใช่สร้อยธรรมดา ทว่าเป็นล็อกเก็ตที่ซ่อนกลไกการเปิดปิดเอาไว้อย่างมิดชิด ภายในนั้นเป็นรูปเตียวเหล็ง น้ำเหนือ และผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ชลัมพลจึงแปลกใจที่ผู้หญิงในรูปไม่ใช่สายน้ำผึ้ง!

เขาเริ่มเอะใจบางอย่าง จึงลองค้นหาประวัติของบริษัททัวร์ที่เธอเคยทำงานเป็นมัคคุเทศก์ ก่อนจะได้พบกับความจริงที่ว่าเธอไม่ได้ชื่อสายน้ำผึ้ง ชื่อจริงของเธอคือ เพราตา

เขาคิดว่าชัยยศน่าจะให้คำตอบเรื่องนี้ได้…

ส่วนสายน้ำผึ้ง…ยังคงตกใจกับจูบของเขาเมื่อครู่ เพียง ‘จุมพิตเดียว’ ที่เคยประทับแน่นอยู่ในหัวใจเมื่อครั้งอดีตทำให้ความทรงจำมากมายพรั่งพรูกลับมาโดยไม่ทันตั้งตัว

ในที่สุดเธอก็จำได้ว่าตัวเองเป็นใคร… เธอไม่มีสามี ไม่มีลูก แต่ทำงานเป็นมัคคุเทศก์อยู่น่าน เธอเดินทางมาภูเก็ตเพราะเพิ่งลาออกจากงานจึงมาพักผ่อน และที่สำคัญเธอก็เพิ่งตัดสินใจจะเลิกกับภาคิน แฟนของเพราตา ส่วนหนึ่งที่เธออยากมาภูเก็ตเพราะเธออยากหนีภาคิน แต่บังเอิญเธอได้รู้จักกับสายน้ำผึ้งตัวจริงและน้ำเหนือที่กำลังจะเดินทางมาฟังพินัยกรรมบนรถทัวร์ สองสาวคุยกันถูกคอ ก่อนจะประสบอุบัติเหตุรถคว่ำด้วยกัน เป็นสาเหตุให้เธอปวดหัวทุกครั้งที่เห็นน้ำเหนือนอนเป็นเจ้าชายนิทรา เพราะเธอคุ้นๆ เขา

เพราตาคิดจะไปถามเรื่องนี้จากชลัมพลว่าทำไมเขาถึงคิดว่าเธอคือสายน้ำผึ้ง แถมยังมีสร้อยของสายน้ำผึ้งสวมอยู่ที่คอเธอตอนฟื้นขึ้นมาอีกด้วย แต่แล้วเพราตากลับบังเอิญไปได้ยินเสียงชลัมพลกำลังคุยกับชัยยศในห้องทำงานเสียก่อน

ชัยยศเพิ่งจะยอมบอกความจริงกับชลัมพลว่าสายน้ำผึ้งตัวจริงตายเพราะอุบัติเหตุรถคว่ำ ตอนนั้นเขาบังเอิญเห็นเพราตาในห้องฉุกเฉินจำอะไรไม่ได้ เขาก็เลยคิดแผนนี้ขึ้นมา โดยให้คนปลอมแปลงเอกสารเพราตาเป็นสายน้ำผึ้ง เพราะถ้าเตียวซกรู้ว่าสายน้ำผึ้งตายไป เตียวซกก็จะกลายเป็นผู้ดูแลมรดกในฐานะลุงของน้ำเหนือ และคงล้างผลาญทุกอย่างของน้ำเหนือจนหมดสิ้น เขาไม่อยากให้เตียวซกที่เนรคุณฆ่านายเหมืองได้สมบัติสมใจ ถึงต้องอุปโลกน์เพราตามาเป็นสายน้ำผึ้งเพื่อคานอำนาจระหว่างหาหลักฐานเอาผิดเตียวซก

แต่ชลัมพลกลับคิดว่ามันไม่ถูกต้อง วันนี้เพราตาเกือบถูกรถชน และเขาแน่ใจว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ มีคนพยายามจะฆ่าเธอหลายครั้งแล้ว ในเมื่อเธอไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ เขาจึงไม่อยากให้เธอต้องมาตกเป็นเหยื่อความโลภของใคร

ชัยยศพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างไรชายหนุ่มก็ไม่เห็นด้วย สุดท้ายชัยยศจึงกลับออกไปด้วยความไม่พอใจ โดยทิ้งท้ายว่าขอให้ชลัมพลตรึกตรองดีๆ

ชลัมพลกลุ้มใจ เพราตาจึงเดินเข้าไปสารภาพตรงๆ ว่าเธอได้ยินทุกอย่างแล้ว ทั้งยังจำได้ด้วยว่าเธอเป็นใคร ชลัมพลกลัวเธอเข้าใจผิด แต่ไม่…เธอเข้าใจทุกๆ อย่างและเธอก็ยินดีจะช่วยปลอมตัวเป็นสายน้ำผึ้งต่อไป เพราะที่ชัยยศพูดก็มีเหตุผล หญิงสาวกลัวว่าถ้าบอกความจริงตอนนี้ชลัมพลจะต้องเดือดร้อน เตียวซกไม่มีทางจะไม่เอาผิดเขาแน่ๆ แต่ชลัมพลไม่อยากให้เธอต้องมาเสี่ยงด้วย เพราตาจึงสารภาพรักเขา ทำให้เขาพ่ายแพ้ต่อความรู้สึกที่เขาเองก็มีต่อเธอมานานแสนนาน

แต่เมื่อสองคนตกเป็นของกันและกันแล้ว ชลัมพลกลับยิ่งเป็นห่วงเพราตามากขึ้น เขาไม่กล้าให้เธออยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยอันตรายรอบด้านอีก แม้ว่าเธอจะยินดีช่วยเหลือเขากับชัยยศก็ตาม เขาตัดสินใจอ้างกับทุกคนว่าจะพาคุณย่าไปเรียนรู้งานที่เกาะรังนก เพราะคิดว่าที่นั่นปลอดภัยมากกว่าที่บ้าน

แพรพิสุทธิ์ ลูกสาวเศรษฐีเจ้าของภัตตาคารดังในภูเก็ตหลงรักชลัมพลมานาน แต่หลังจากเขาต้องไปดูแลคุณย่า เธอก็แทบจะไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย

เมื่อเธอบังเอิญไปกินข้าวกับเพื่อนชาวต่างชาติ เห็นชลัมพลกำลังลงเรือไปเกาะรังนกกับคุณย่า แพรพิสุทธิ์จึงหมั่นไส้ ระบายให้เพื่อนฟัง แต่เมื่อเพื่อนของเธอเห็นคุณย่าเท่านั้นก็ตกใจ บอกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ชื่อสายน้ำผึ้ง แต่ชื่อเพราตา เพื่อนของแพรพิสุทธิ์เคยไปเที่ยวทัวร์ของเพราตาเลยจำได้

แพรพิสุทธิ์รีบนำเรื่องนี้ไปบอกกับชลัมพลเพื่อเอาหน้า แต่กลับถูกสั่งห้ามไม่ให้ยุ่งอีก เขาโกหกว่าเพราตาเป็นชื่อเก่าของสายน้ำผึ้ง ทว่าแพรพิสุทธิ์ยังคงไม่ปักใจเชื่อง่ายๆ เธอคิดจะพิสูจน์ความจริงด้วยการส่งนักสืบไปหาประวัติของสายน้ำผึ้งถึงน่าน ก่อนจะบังเอิญเจอศักดิ์ณรงค์เข้าที่ไนต์คลับ ศักดิ์ณรงค์ตามจีบเธอมานาน แต่เธอไม่แยแสเพราะเขาไม่มีอะไรเทียบชลัมพลได้สักอย่าง ทำให้ศักดิ์ณรงค์ยิ่งแค้นใจอย่างมากที่ชลัมพลมาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเขาหมด

ฤดูเก็บรังนกใกล้เข้ามาทุกที ชลัมพลจึงจัดงานเลี้ยงอวยพรให้คนงานทุกคนเพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน กลางดึกคืนนั้นมีคนร้ายลักลอบขึ้นเกาะเพราะคิดว่าทุกคนเมาหลับหมดแล้ว แต่สุดท้ายกลับถูกจับตัวได้ เมื่อชลัมพลรู้เข้าเลยให้คนเฝ้าเพราตาไว้ที่กระท่อม เขาคาดคั้นสอบสวนคนร้ายจนได้ความว่าเป็นคนของศักดิ์ณรงค์!

ทันใดนั้น มีเสียงปืนดังขึ้นทางกระท่อมท้ายเกาะ ชลัมพลกลับไปดูก็พบว่าคนที่ให้เฝ้าเพราตาไว้ถูกฆ่าตาย มีข้อความทิ้งไว้กับศพว่าให้ไปที่เกาะร้างทางทิศตะวันตกเพียงคนเดียวก่อนพระอาทิตย์ขึ้น

ชลัมพลรีบตามไปเพราะเป็นห่วงเพราตา แต่เมื่อไปถึงก็ถูกคนร้ายซุ่มยิงทันที ชลัมพลไหวตัวทัน เลยเกิดการต่อสู้ขึ้นภายในถ้ำ แต่ในที่สุดเขาก็ช่วยเพราตาออกมาได้เพราะคนงานบนเกาะเป็นห่วง แอบยกพวกตามมาช่วยอีกแรง ส่วนคนร้ายโดนยิงที่ไหล่ขวาก่อนจะหลบหนีไป

เพราตาบอกเขาว่าเธอเห็นรอยสักรูปมังกรที่หลังมือคนร้าย ชายหนุ่มเลยคิดว่าน่าจะเป็น รุจน์ คนสนิทของเตียวซก เมื่อประกอบกับที่จับคนของศักดิ์ณรงค์ได้บนเกาะ เขาจึงยิ่งมั่นใจว่าเตียวซกต้องการกำจัดสายน้ำผึ้งเพื่อฮุบมรดกจริงๆ

แต่เมื่อชลัมพลพาเพราตาไปสุสานของเตียวเหล็งในตอนเช้าของวันหนึ่ง เขากลับบังเอิญเห็นเตียวซกกับรุจน์เพิ่งกลับออกไป ชายหนุ่มได้ยินคนดูแลสุสานพูดว่าเตียวซกกับรุจน์เป็นคนกตัญญูมาก ตั้งแต่เตียวเหล็งตายก็มาที่นี่ทุกวันในช่วงเช้า ชลัมพลเริ่มเอะใจว่าถ้ามาทุกวันคงไม่สามารถไปลักพาตัวเพราตาในคราวนั้นได้ เพราะช่วงเวลามันทับซ้อนกันอยู่ ยิ่งมานึกทบทวนดูว่าตอนนั้นเพราตาไม่เป็นไรเลย แต่พอเขาไปถึงกลับถูกซุ่มยิงทันที ทำให้เขายิ่งสงสัยว่าเป้าหมายของคนร้ายตอนนี้ไม่ใช่เพราตาเสียแล้ว คนร้ายต้องการฆ่าเขามากกว่า แต่ใครกันที่ต้องการฆ่าเขา?

ขากลับจากสุสานชลัมพลได้เจอกับอากุ่ยที่มาดักรอพบ เขาตกใจที่อากุ่ยยังไม่ตาย ก่อนจะได้รู้ความจริงจากอากุ่ยว่าชัยยศคือคนสั่งให้อากุ่ยมาลอบวางระเบิดที่รถเตียวเหล็ง ชลัมพลไม่เชื่อและโกรธมากที่อากุ่ยใส่ร้ายชัยยศ ซึ่งเปรียบได้กับพ่อคนที่สองของเขา แต่อากุ่ยยืนกรานว่าตนไม่ได้โกหก และที่ตัดสินใจกลับมาบอกชลัมพลเพราะหลังจากตกหน้าผาไปคราวก่อน อากุ่ยได้กลับไปที่บ้านและพบว่าลูกเมียตัวเองถูกฆ่าตายปิดปาก ทำให้แค้นใจและอยากมาทวงความยุติธรรม

ชลัมพลคิดจะพิสูจน์คำพูดอากุ่ยด้วยการแกล้งทำเป็นซ้อมมวยกับลูกน้องที่บ้าน พอชัยยศเดินผ่านมาทักทาย ชายหนุ่มเลยแกล้งชวนมาประลองกัน แต่ชัยยศถ่อมตัวว่าแก่แล้ว อย่างไรเสียก็คงสู้เด็กหนุ่มๆ อย่างชลัมพลไม่ได้ ชลัมพลจึงยิ่งสงสัย คะยั้นคะยอจนในที่สุดชัยยศก็ยอมสู้ด้วย ชายหนุ่มสังเกตได้ว่าชัยยศพยายามหลบไม่ให้เขาโจมตีแขนขวา ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่คนร้ายถูกยิงคืนนั้น

ตกค่ำเขาจึงแอบไปค้นห้องทำงานของชัยยศ ก่อนจะเจอแทททูรูปมังกรลายเดียวกับของรุจน์ซ่อนอยู่อย่างมิดชิด เลยได้ข้อสรุปว่าเหตุการณ์บนเกาะคืนนั้นเป็นแผนของชัยยศทั้งหมด ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับศักดิ์ณรงค์เลย!

ชลัมพลผิดหวัง ไม่อยากเชื่อ ไม่เข้าใจว่าชัยยศทำเช่นนี้ทำไม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาเชื่อว่าอากุ่ยไม่ได้โกหก ชัยยศเป็นคนสั่งฆ่าเตียวเหล็ง!

งานครบรอบสามสิบปีของบริษัทมาถึง ชลัมพลจึงแกล้งให้เพราตาทำทีว่าไม่สบายแต่เช้า และบอกกับทุกคนว่าเขาคงไปร่วมงานไม่ได้ เพราะต้องอยู่ดูแลความปลอดภัยให้เพราตา ชัยยศถือโอกาสที่คนในบ้านถูกเกณฑ์มาช่วยงานที่บริษัท สั่งคนไปจับตัวชลัมพลไปไว้บนเรือยอชต์กลางทะเล ไม่นาน ลูกน้องโทร.มาบอกว่าจับชลัมพลได้แล้ว

พอเสร็จงานเลี้ยง ชัยยศจึงนั่งเรือเร็วไปที่เรือยอชต์ เห็นชลัมพลถูกจับอยู่ก็ยอมบอกตรงๆ ว่าชลัมพลบังคับให้เขาต้องทำแบบนี้เอง ชัยยศเริ่มโกรธตั้งแต่ที่ชลัมพลไม่ยอมให้เอาเพราตามาเป็นเครื่องมือ ทั้งๆ ที่เขาอุตส่าห์วางแผนมาอย่างดีว่าจะหาโอกาสกอบโกยสมบัติจากคุณนายตัวปลอมด้วยการทำให้เธอไว้ใจก่อน…ค่อยหลอกเอามรดกทีหลัง เนื่องจากแท้จริงแล้วสายน้ำผึ้งเป็นเด็กในปกครองของเขาเอง!

ชัยยศเป็นคนวางแผนให้สายน้ำผึ้งมาเป็นภรรยาคนที่ 5 ของนายเหมืองเพื่อกอบโกยสมบัติตั้งแต่หลายปีก่อน ทว่าแทนที่ทุกอย่างจะเป็นของเขาหลังการฆาตกรรมเตียวเหล็ง สายน้ำผึ้งกลับต้องมาเคราะห์ร้ายอย่างไม่คาดคิด

หารู้ไม่ว่าตอนนี้เขาเองก็กำลังถูกชลัมพล ‘ซ้อนแผน’ เข้าให้ เพราะคนที่เขาสั่งให้ไปจับชลัมพลมานั้นแปรพักตร์ไปอยู่ข้างชลัมพลแล้ว แถมยังมีตำรวจปรากฏตัวออกมาจากที่ซ่อนอีกด้วย

เมื่อชัยยศถูกจับ ฝันร้ายของตระกูลเตียวจึงทำท่าว่าจะสิ้นสุดลง แต่ไม่นานนักชัยยศก็หลบหนีออกมาจากห้องขังได้

เขาให้คนโทร.มาขู่จะวางระเบิดบริษัท สร้างความปั่นป่วนเพื่อล่อชลัมพลออกจากบ้าน นารีฉวยโอกาสนั้นหลอกเพราตาไปที่เกาะรังนก โดยที่เพราตาไม่รู้เลยว่านารีมีส่วนช่วยชัยยศหนีมาจากห้องขังเอง! กระทั่งไปถึงกระท่อมบนเกาะและถูกนารีจับมัดเอาไว้ นารีจึงยอมเผยธาตุแท้ออกมาว่าเธอเกลียดเพราตา

ที่จริงนารีเป็นภรรยาลับๆ อีกคนของเตียวเหล็ง เธอเคยท้องลูกของเขา แต่พอคุณนายใหญ่รู้เข้าก็ทำให้เธอแท้งลูก และคิดจะฆ่าเธอเหมือนเมียคนอื่นๆ

แต่ความที่เธอเป็นหลานสาวคนใช้เก่าแก่ในบ้าน ป้าของเธอจึงขอชีวิตไว้ คุณนายใหญ่ยอมละเว้นเธอคนแรก แต่กลับประกาศห้ามยุ่งกับสามีอีก ตอนนั้นนารีกลัวมาก ไปขอความช่วยเหลือจากเตียวเหล็ง นึกไม่ถึงว่าเตียวเหล็งจะเย็นชากับเธอเพียงเพราะว่าเธอไม่ปกป้องลูกในท้องให้ดีๆ

นารีเก็บกดและคับแค้นใจมาตลอด เมื่อรู้ในวันเปิดพินัยกรรมว่าเตียวเหล็งมีสายน้ำผึ้งกับลูกอยู่นอกบ้านเลยเกิดความอิจฉา ส่งคนไปฆ่าสายน้ำผึ้งที่โรงพยาบาลในชุมพร ตอนที่สายน้ำผึ้งพักรักษาตัวอยู่บ้านที่น่านเธอก็ส่งคนไปลอบทำร้ายเช่นกัน (ฉากที่ชัยยศโทรศัพท์คุยกับชลัมพลและเปิดประตูมาเจอนารี ตอนนั้นนารีมาแอบสืบว่าสายน้ำผึ้งพักอยู่ที่ไหน) แน่นอน… เมื่อสายน้ำผึ้งรอดชีวิตกลับมาภูเก็ตได้ คนที่ขับรถชนในตลาดคราวก่อนก็เป็นคนของเธอ

เพราตาตกใจที่รู้ความจริงทั้งหมด และพยายามบอกความจริงว่าเธอไม่ใช่สายน้ำผึ้ง แต่นารีไม่เชื่อ คิดว่าอีกเดี๋ยวชัยยศมาถึงก็จะเอาเพราตาไปฆ่า แก้แค้นที่ชลัมพลทำให้ชัยยศต้องติดคุก แต่คนที่มาถึงกลับกลายเป็นชลัมพล ทำให้นารีตกใจเพราะกลัวความผิด ทันใดนั้น คนงานในเกาะก็ตะโกนโหวกเหวกว่ามีคนเห็นระเบิดเวลาซุกอยู่ใต้ถ้ำ นารีจึงรู้ว่าถูกชัยยศหลอกใช้เข้าแล้ว

ทุกคนพากันหนีออกจากเกาะท่ามกลางเสียงระเบิดที่ดังขึ้นตามจุดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ชลัมพลพาเพราตากระโดดหนีลงทะเลได้ทันอย่างหวุดหวิด ก่อนจะเห็นชัยยศยืนมองผลงานตัวเองอยู่บนเรือลำหนึ่งไกลๆ

เมื่อเจอเรือลำหนึ่งยังใช้การได้ ชลัมพลจึงพาเธอขึ้นเรือไปซ่อนที่ถ้ำเล็กๆ ในเกาะใกล้เคียง ส่วนเขาเอาเรือออกไปจัดการชัยยศ เพราะแค้นใจที่ชัยยศทำให้คนมากมายบนเกาะต้องตาย สองคนขับเรือไล่ยิงกันอยู่สักพัก ชัยยศก็พลาดท่าเสียที เลยขับเรือวนหนีมาเจอเพราตาหลบอยู่ในถ้ำ เขารีบจับเธอเป็นตัวประกัน แต่สุดท้ายชลัมพลก็ช่วยเอาไว้ได้ ก่อนที่ตำรวจจะตามมาถึงและยิงชัยยศตายในที่สุด

สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย นารีตายบนเกาะเพราะความหลงผิดของตัวเอง ส่วนชัยยศมีจุดจบเช่นนั้นเพราะถูกความโลภครอบงำ ในขณะที่เตียวซกนั้นแม้จะโกรธเคืองที่เตียวเหล็งลำเอียงรักชลัมพลมาก กว่าศักดิ์ณรงค์ที่เป็นหลานแท้ๆ แต่สุดท้ายแล้วความเหลวไหลของศักดิ์ณรงค์ก็ทำให้เขาตระหนักได้ว่าตนเองผิดที่เลี้ยงลูกไม่ดี

ด้านแพรพิสุทธิ์เพิ่งได้หลักฐานจากนักสืบมาว่าผู้หญิงที่อยู่กับชลัมพลทุกวันนี้คือเพราตา ไม่ใช่สายน้ำผึ้ง จึงรีบนำหลักฐานไปให้ชายหนุ่มดู เพราะอยากให้เขารู้ว่าเพราตาหลอกลวง ก่อนจะได้รู้ความจริงเสียเองว่าทั้งหมดเป็นแผนของเขา!

ชลัมพลขอโทษหญิงสาวที่ต้องปิดบัง ทำให้แพรพิสุทธิ์เสียใจที่รู้ว่าเขาไม่ได้รักเธอเลย แต่ชลัมพลก็ทำให้เธอตระหนักได้ว่าที่จริงแล้วเธอเองก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน บิดามารดาของเธอต่างหากที่อยากให้เธอกับเขาลงเอยกัน ถึงได้ทำให้เธอหลงเข้าใจผิดว่าเธอเองก็รักเขา แต่เมื่อรู้ใจตัวเองแล้ว แพรพิสุทธิ์ก็อวยพรให้ทั้งคู่   ชายหนุ่มจึงถือโอกาสนำหลักฐานที่แพรพิสุทธิ์ให้มาไปสารภาพความจริงกับทุกคนว่าเพราตาไม่ใช่คุณย่า และประกาศแต่งงานกับเพราตาในเวลาต่อมา

เตียวซกได้เป็นผู้ดูแลมรดกของน้ำเหนือในฐานะลุงแท้ๆ เพราตาจึงแกล้งถามชลัมพลว่าเขาเสียดายไหมที่พูดความจริงออกไป เพราะถ้าเขาไม่บอกว่าเธอเป็นใคร และให้เธอสวมรอยเป็นสายน้ำผึ้งต่อไปเรื่อยๆ มรดกเหล่านั้นก็เหมือนอยู่ในกำมือของเขา แต่คำตอบของชลัมพลคือ ‘ไม่’

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า รัก โลภ โกรธ หลง ที่มากเกินไปไม่เคยทำให้ใครมีความสุข และเขาเองก็พึงพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้…เขามีเธอ


บทประพันธ์ : ผักบุ้ง

บทโทรทัศน์ : วรรณา  แต่งพสุเลิศ

 นำแสดงโดย : เวียร์ ศุกลวัฒน์ , พระพาย พรทิวา , เกรท สพล , สกาย มาเรีย

กำกับการแสดงโดย : บุญธร  กิติพัฒฑากรณ์


แนะนำ

ภาพเบื้องหลัง

mediastudio.co.th ใช้คุกกี้เพื่อที่จะได้นำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงเนื้อหา และเว็บไซต์ให้ตรงกับใจคุณมากขึ้น คุณสามารถศึกษา รายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่นโยบายการใช้คุกกี้